การเพิ่มโอกาสทางการค้าในปัจจุบันสามารถเริ่มต้นได้จากการดันเว็บไซต์ของผู้ประกอบการขึ้นไปอยู่เป็นอันดับต้น ๆ ของการค้นหาใน Search engine ต่าง ๆ ทั้ง Google, MSN และ Yahoo เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายและมีจำนวนมากขึ้น จะมีประโยชน์อะไรถ้าผู้ประกอบการนำเสนอเว็บไซต์ที่มีภาพสีคมชัด, สินค้าให้เลือกครบครัน แต่กลับไม่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคลิ๊กเข้ามาดู การเลือกให้บริการ รับเขียนบทความ เข้ามาช่วยก็เหมือนการเลื่อนลำดับทำเลหน้าร้านให้เข้าตาลูกค้ามากขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการอาจจะมีคำถามในใจถึงรูปแบบของงานเขียนบทความ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่จะให้ความกระจ่างในประเด็นต่าง ๆ ก็คือผู้ให้บริการ รับเขียนบทความ ที่ต้องสามารถอธิบายความสำคัญต่าง ๆ ให้ได้ชัดเจน เช่น
- ทำไมต้องถามคีย์เวิร์ดก่อนที่จะเริ่มเขียนบทความ: ผู้ประกอบการหรือผู้ว่าจ้างงานเขียนบทความบางรายอาจมีความสงสัยว่าคีย์เวิร์ดที่นักเขียนถามคืออะไร ทำไมต้องใส่หรือใส่แล้วจะมีประโยชน์อะไร นักเขียนบทความจำเป็นต้องสามารถให้คำแนะนำได้ว่าการเขียนบทความมี 2 รูปแบบ อย่างแรกคือบทความทั่วไปดูที่ความยาวตามที่ลูกค้าต้องการ อีกแบบคือบทความ SEO ซึ่งจะมีการกำหนดคีย์เวิร์ดเพื่อช่วยให้บทความนั้น ๆ ถูกค้นพบใน search engine ได้บ่อยมากขึ้น ทั้งนี้ การที่คีย์เวิร์ดเป็นตัวหนาหรือมีการเน้นสีให้เห็นนั้น เพื่อให้ผู้ว่าจ้างสามารถเห็นชัดเจนขึ้นว่าคีย์เวิร์ดปรากฎในบทความกี่คำและตำแหน่งไหนบ้าง และที่สำคัญ ยังสะดวกกับผู้ว่าจ้างหากต้องการเติมลิงค์ไปยังภาพประกอบหรือเชื่อมต่อไปยังบทความอื่น ๆ ภายในเว็บไซต์ของผู้ว่าจ้างอีกต่อหนึ่งด้วย
- ค่าบริการ รับเขียนบทความ ราคา เท่าไหร่ พิจารณาจากอะไร: หลักการเสนอค่าบริการ รับเขียนบทความราคาถูก โยงเข้ากับจำนวนคำที่ผู้ว่าจ้างต้องการในแต่ละครั้ง โดยทั่ว ๆ ไป สำหรับบทความภาษาไทยก็มักจะเสนอบทความที่มีความยาวตั้งแต่ 300, 500, 1000 และ 1500 คำ ในขณะที่งาน รับเขียนบทความภาษาอังกฤษ นั้น จะนิยมความยาวที่ 300 และ 500 คำเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี หากเป็นบทความที่มีเนื้อหาเฉพาะทางหรือมีความละเอียดของงานมากขึ้น อัตราค่าบริการก็มักจะสูงขึ้นตามไปด้วย
- ทำไมต้องมีรูปภาพประกอบบทความ: นอกจากบทความคุณภาพจะต้องมีสำนวนภาษาดี, สะกดถูกต้องและเนื้อหากระชับ ได้ใจความแล้ว หากมีภาพประกอบในบทความด้วยก็จะช่วยดึงความสนใจจากผู้อ่านหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรูปภาพดังกล่าวที่นำมาลงคู่กับบทความออนไลน์ มีความสอดคล้องกับเนื้อหาบทความ ก็จะยิ่งช่วยสื่อสารถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้มากขึ้น และที่สำคัญ จะช่วยทำให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจและสามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการหรือสินค้าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย