ไม่ว่าธุรกิจของผู้ประกอบการจะเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมด้านไหน, เป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็ก และมีรูปแบบของเว็บไซต์สวยงามแค่ไหนก็ตาม หากวันนี้ไม่ได้เริ่มทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ที่เป็นประตูเปิดสู่โอกาสทางธุรกิจที่ใคร ๆ ก็ใช้กระตุ้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้เข้ามาในร้านค้าออนไลน์กันทั้งนั้น คุณกำลังพลาดโอกาสสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถ้าคุณรู้แล้วว่าทำไมจึงต้องหามือดีมาช่วยบริการ รับเขียนบทความ ออนไลน์ ก็ควรจะรู้ไว้อีกสักนิดว่าอะไรบ้างที่ผู้ว่าจ้างควรระบุในแต่ละงานเขียน ไม่ว่าจะเป็นงาน รับเขียนบทความ ราคา สูง หรือ ราคาถูกก็ตาม
- คีย์เวิร์ดที่ต้องการให้ระบุในข้อความ: สำหรับบทความตามหลัก SEO การกำหนดคีย์เวิร์ดหลักสำคัญ ๆ จะเป็นประโยชน์มากในการค้นหาของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและมีส่วนช่วยดันให้บทความของผู้ประกอบการสามารถไต่ลำดับขึ้นมาอยู่ต้น ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยในแต่ละบทความ นักเขียนจะผสมคีย์เวิร์ดเหล่านี้ลงไปในบทความไม่น้อยกว่า 1 – 3 % ของเนื้อหาทั้งหมด หรือประมาณ 4 – 5 คำต่อความยาวของบทความภาษาไทย 500 คำ ซึ่งบทความ SEO ที่ดีควรมีการนำคีย์เวิร์ดหลักมาตั้งในชื่อบทความด้วย
- ความยาวและจำนวนของบทความ: นอกจากค่าบริการ รับเขียนบทความราคาถูก หรือแพงจะขึ้นอยู่กับความยาวของบทความที่ลูกค้าต้องการแล้ว ยังต้องดูถึงความถี่ในการอัพเดทบทความขึ้นบนหน้าเว็บไซต์ด้วย สำหรับบทความภาษาไทยนั้น โดยมากจะนิยมบทความที่มีความยาวตั้งแต่ 300, 500, 1000 และ 1500 คำ ส่วนบทความภาษาอังกฤษนั้น ก็มักจะกำหนดความยาวของเนื้อหาประมาณ 300 – 500 คำขึ้นไป อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการยังต้องพิจารณาจัดทำบทความออนไลน์ออกมาต่อเนื่องเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 1 บท เพื่อช่วยรักษาอันดับบนหน้าเว็บไซต์และทำให้เว็บไซต์มีการอัพเดทเสมอ ๆ
- กรอบเวลาการส่งที่ชัดเจน: เพื่อช่วยให้การสื่อสารระหว่างนักเขียนบทความและผู้ว่าจ้างเป็นไปในทิศทางเดียวกันและไม่เกิดความสับสนภายหลัง ผู้ประกอบการควรสอบถามและกำหนดวันส่งมอบบทความให้ชัดเจน ซึ่งหากจำนวนบทความตั้งแต่ 5 – 10 บทความก็มักจะใช้เวลาในการเขียนงานไม่น้อยกว่า 5 – 7 วันทำการ และต้องไม่ลืมตรวจสอบบทความว่ามีเนื้อหาที่ไม่เหมือนใครแน่นอนหรือไม่ จากการดูคะแนน Unique content ที่ต้องได้ 100% เสมอ
นอกจากนี้ ผู้ว่าจ้างยังอาจพิจารณาผู้ให้บริการ รับเขียนบทความ ออนไลน์บางแห่งที่มีความสามารถในการ รับเขียนบทความภาษาอังกฤษ เพิ่มด้วย ซึ่งก็เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจของผู้ประกอบการสามารถทำการตลาดในต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นด้วยเม็ดเงินลงทุนที่น้อยกว่าการทำการตลาดผ่านช่องทางอื่น ๆ จึงไม่แปลกที่ใคร ๆ ต่างก็ไม่ยอมพลาดลงบทความ SEO กันทั้งนั้น